ครอบฟัน: การรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนรอยยิ้มของคุณ
ครอบฟัน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากจะช่วยฟื้นฟูสภาพฟันที่เสียหายแล้ว ยังเป็นการเสริมความมั่นใจในรอยยิ้มให้กับผู้ที่ได้รับการรักษาอีกด้วย ในวันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับครอบฟันกันให้มากขึ้น ว่ามีข้อดีอย่างไรบ้าง และเหมาะสำหรับการรักษาในกรณีใดบ้าง
ครอบฟันคืออะไร
ครอบฟัน คือการรักษาทางทันตกรรมประดิษฐ์ ที่ใช้วัสดุต่างๆ เช่น เซรามิก หรือโลหะผสมกับเซรามิก มาทำเป็นวัสดุปิดครอบตัวฟันที่มีปัญหา เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคฟันผุ หรือเพื่อฟื้นฟูสภาพฟันที่แตกหัก ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ และมีรูปร่างใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ครอบฟันเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันผุขั้นรุนแรงเสียเนื้อฟันไปมาก จนอุดฟันไม่สามารถคงความแข็งแรงของฟันได้ หรือฟันที่แตกหักไปมาก จนไม่สามารถบูรณะด้วยวิธีอื่นได้ รวมถึงผู้ที่เคยทำการรักษารากฟันมาแล้ว ซึ่งจำเป็นต้องใช้ครอบฟันมาช่วยป้องกันฟันที่รักษาเอาไว้
ประเภทของครอบฟัน
ครอบฟันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามชนิดของวัสดุที่ใช้ ได้แก่
1. ครอบฟันโลหะล้วน
เป็นครอบฟันที่ทำจากโลหะทั้งซี่ มีความแข็งแรงทนทานสูง แต่อาจมีข้อจำกัดในแง่ของความสวยงาม เนื่องจากมีสีที่แตกต่างจากฟันธรรมชาติ จึงมักใช้กับฟันหลังเป็นส่วนใหญ่
2. ครอบฟันโลหะเคลือบเซรามิก
เป็นการนำข้อดีของโลหะในแง่ความแข็งแรง มาผสมผสานกับความสวยงามของเซรามิก โดยจะใช้โลหะเป็นโครงสร้างชั้นใน และเคลือบผิวด้านนอกด้วยเซรามิก เพื่อให้มีสีเหมือนฟันจริงมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการทั้งความแข็งแรงและความสวยงาม
3. ครอบฟันเซรามิกล้วน
เป็นครอบฟันที่ให้ความสวยงามสูงสุด เนื่องจากทำจากเซรามิกทั้งชิ้น ทำให้มีสีและลักษณะใกล้เคียงฟันแท้มากที่สุด นิยมใช้กับฟันหน้ามากกว่าฟันหลัง แต่ก็มีความแข็งแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบันเซรามิกทางทันตกรรมได้รับการพัฒนาไปมากจนสามารถใช้กันฟันหลังได้เทียบเท่ากับโลหะแล้ว

ขั้นตอนการทำครอบฟัน
การทำครอบฟันโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ครั้ง โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
1. ตรวจสภาพฟันและวางแผนการรักษา โดยทันตแพทย์จะประเมินสภาพฟันของคุณ และแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม
2. กรอแต่งฟันเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับครอบฟัน โดยอาจต้องกรอฟันเดิมออกบางส่วน เพื่อให้มีขนาดพอดีกับครอบฟัน
3. พิมพ์ปากเพื่อนำไปทำครอบฟัน โดยจะใช้วัสดุพิมพ์ปากชนิดพิเศษที่มีความแม่นยำมากกว่าวัสดุพิมพ์ปากทั่วไป เพื่อจำลองรูปร่างของฟันและขากรรไกร
4. ใส่ครอบฟันชั่วคราว ระหว่างรอครอบฟันจริงเสร็จ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
5. ลองใส่และปรับแต่งครอบฟันจริง ให้มีสีและรูปทรงกลมกลืนกับฟันข้างเคียง รวมถึงปรับการสบฟันให้เข้าที่
6. ติดตั้งครอบฟันถาวรเข้ากับโครงสร้างฟัน ด้วยซีเมนต์ทางทันตกรรมชนิดพิเศษ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษา
ข้อดีของการทำครอบฟัน
– ช่วยอนุรักษ์ฟันธรรมชาติเอาไว้ได้ โดยไม่ต้องถอนทิ้ง
– ป้องกันการลุกลามของฟันผุ และเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวฟัน
– ฟื้นฟูการบดเคี้ยวได้ใกล้เคียงปกติ ช่วยให้รับประทานอาหารได้ดีขึ้น
– เพิ่มความมั่นใจเวลายิ้มหรือพูด ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีและเป็นธรรมชาติ
– มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หากได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครอบฟัน
Q: หลังทำครอบฟันต้องดูแลรักษาอย่างไรบ้าง ?
A: ควรแปรงฟันอย่างอ่อนโยนวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และพบทันตแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจสภาพครอบฟันและขูดหินปูนเป็นประจำ รวมถึงหลีกเลี่ยงการกัดของแข็งหรือใช้ฟันในทางที่ผิด
Q: ครอบฟันมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่ ?
A: อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของครอบฟันคือประมาณ 5-15 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุ, ตำแหน่งของฟัน และพฤติกรรมการดูแลรักษาของผู้ป่วยเป็นหลัก
Q: การทำครอบฟันจำเป็นต้องกรอฟันทุกครั้งหรือไม่ ?
A: ในกรณีส่วนใหญ่ จำเป็นต้องกรอแต่งฟันเดิมออกบางส่วน เพื่อเตรียมพื้นที่ให้พอดีกับครอบฟัน แต่ทันตแพทย์จะพยายามกรอให้น้อยที่สุด เพื่อรักษาโครงสร้างฟันธรรมชาติเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ที่ คลินิกทันตกรรมพีเอสเค เรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมประดิษฐ์ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกขั้นตอนของการทำครอบฟันอย่างใกล้ชิด เพื่อการรักษาที่ได้ผลลัพธ์สวยงาม และการใช้งานที่ยาวนาน หากคุณสนใจอยากเปลี่ยนแปลงรอยยิ้มด้วยครอบฟัน ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์ฟรีได้ตั้งแต่วันนี้